คาเฟ่กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากหนุ่มสาว เพราะเป็นพื้นที่ที่สามารถดื่มกาแฟ นัดเจอเพื่อนฝูง ถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย หรือนั่งทำงานได้ ร้านกาแฟในปัจจุบันนี้ นอกจากต้องให้ความสำคัญกับวัตถุดิบหรือรสชาติของกาแฟไปพร้อมกับความคุ้มค่า รวมถึงรักษามาตรฐานของร้านด้วยการบริการที่ดีแล้ว ยังต้องออกแบบร้านให้มีมุมถ่ายรูปหรือมุมส่วนตัว เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่อีกด้วย

เมื่อเทรนด์ของคาเฟ่มาแรง ใคร ๆ ต่างก็นัดพบปะกันที่ร้านกาแฟสุดชิค จึงเกิดคำว่า Cafe Hopping ขึ้น ซึ่งจัดเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบท่องเที่ยวเช็กอินตามร้านคาเฟ่ต่าง ๆ พร้อมดื่มกาแฟที่ชอบและถ่ายรูปเก็บไว้ แต่จริง ๆ แล้วกาแฟนั้นปล่อยคาร์บอนมหาศาล เป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หนุ่มสาวสายรักษ์โลกควรให้ความสำคัญ

กาแฟปล่อยคาร์บอนมากเท่าไหร่?

กาแฟเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันของคนไทย จากสถิติพบว่าคนไทยบริโภคกาแฟเฉลี่ย 300 แก้วต่อคนต่อปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว กาแฟ 1 แก้วจะก่อให้เกิดคาร์บอน 550 กรัม เมื่อคนไทยบริโภคกาแฟราว 139,082,969 แก้วต่อปี ดังนั้นใน 1 ปี เพียงแค่ดื่มกาแฟ คนไทยจะปล่อยคาร์บอนมากถึง 76,476 ตัน

กาแฟ 1 แก้วนั้นผ่านขั้นตอนมากมาย ซึ่งแต่ละกระบวนการมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศของโลก เริ่มต้นตั้งแต่การเพาะปลูกดูแลเมล็ดกาแฟที่ต้องใช้น้ำจำนวนมาก การขนส่งนำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ ตลอดจนการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในการชงกาแฟและส่วนผสมจากนมวัว โดยนมวัว 1 ลิตรนั้นสามารถปล่อยคาร์บอนมากถึง 3 กิโลกรัม รวมถึงการใช้แก้วหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ก่อให้เกิดขยะตามมา

ด้วยเหตุนี้ บ้านปู เน็กซ์ ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาด จึงจัดทำป๊อปอัพคาเฟ่เพื่อแสดงให้เห็นว่าพลังงานสะอาดเป็นเรื่องใกล้ตัว และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วยการดื่มกาแฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นต้นแบบให้กับองค์กรที่ต้องการพัฒนาเป็น Smart Business สนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจและขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน

Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT รักษ์โลกด้วยคาเฟ่พลังงานสะอาด

Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT จัดเป็นคาเฟ่ที่ผลิตกาแฟจากพลังงานสะอาด 100% แห่งแรกของประเทศไทย โดยบ้านปู เน็กซ์ร่วมมือกับ Roots ร้านกาแฟ Specialty Coffee สัญชาติไทยที่สนับสนุนกาแฟไทยและเกษตรกรท้องถิ่น พร้อมคัดสรรวิธีการ วัตถุดิบ และวัสดุที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ส่งเสริมให้การดื่มกาแฟของเหล่า Cafe Hopping เป็นมิตรกับโลกใบนี้

กาแฟของ Infinite Cafe เป็นกาแฟที่มีความยั่งยืน เนื่องจากเป็นกาแฟที่ปลูกออร์แกนิกภายในประเทศ ด้วยแนวคิด Zero Waste (การลดขยะเป็นศูนย์) และใช้นมข้าวโอ๊ตเป็นส่วนผสมเพื่อลดคาร์บอน ยิ่งไปกว่านั้น ภายในร้านยังใช้โซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจร (Total Smart Energy Solutions) ดังนี้

_{Smart Energy}

ภายในร้านผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยโซลาร์รูฟท็อป พร้อมกักเก็บพลังงานสะอาดในแบตเตอรี่และสามารถจ่ายไฟฟ้าได้มากถึง 9 ชั่วโมง ทำให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด

_{Smart Operation & Digital Platform}

จอแดชบอร์ดที่แสดงผลการใช้พลังงานในคาเฟ่หรือยอดลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเรียลไทม์ พร้อมทั้งมีใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์แสดงยอดลดการปล่อยคาร์บอนจากเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งซื้อ

_{Smart Waste Management}

ระบบจัดการขยะแบบครบวงจร ตั้งแต่การคัดแยก กำจัด และรีไซเคิล ซึ่งสามารถติดตามผลและยอดลดการปล่อยคาร์บอน อีกทั้งบรรจุภัณฑ์ของทางร้านยังเป็นวัสดุที่สามารถย่อยสลายและรีไซเคิลได้

_{Smart Mobility}

อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการเดินทางด้วยพลังงานสะอาดให้แก่ผู้ใช้บริการด้วยรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า Muvmi

กาแฟของ Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT จึงไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ แต่ยังช่วยส่งเสริมให้เราเข้าถึงพลังงานสะอาดในชีวิตประจำวันง่ายยิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเข้าสู่สังคมไร้คาร์บอนในอนาคตอีกด้วย

ร่วมกันรักษ์โลกผ่านกาแฟหนึ่งแก้วที่ Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT ป๊อปอัพคาเฟ่พลังงานสะอาดแห่งแรกของประเทศไทย ณ สวนเบญจกิติ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก (ทางออก 4) หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ทางออก 3) โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่วันที่ 18 เดือนกรกฎาคม เวลา 7.00 – 13.00 น.

แหล่งข้อมูล:

– https://rgs-ibg.onlinelibrary.wiley.com/…/10.1002/geo2.96

– https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/8656.html

– https://www.crownoil.co.uk/…/1-tonne-of-co2-what-does…/

#InfiniteCafePoweredbyBanpuNEXT #ACuptoNetZero #BanpuNEXTxRoots #TotalSmartEnergySolutions